พื้นที่ป่าทางด้านเหนือของเกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นมะม่วงหิมพานต์ ต้นมะพร้าว และผลไม้เขตร้อนชื้นที่ออกดอกผลนานาชนิด ถึงแม้ผลผลิตจะงอกงาม แต่ชาวบ้านจำใจต้องขายตามราคาที่พ่อค้าคนกลางกำหนด และถูกเคลื่อนย้ายไปสู่กระบวนการผลิตในภาคอื่น อาสาสมัครหนุ่มเลยเกิดคำถาม… ถ้าผลผลิตทั้งหมดไม่ต้องเดินทางไปที่ไหน แต่ใช้ความร่วมมือร่วมใจในการแปรรูปร่วมกันกับคนในหมู่บ้าน รายได้ที่มากขึ้นน่าจะช่วยให้ชุมชนแห่งนี้ห่างไกลจากปัญหาสาธารณสุขที่เคยมี

ผ่านไปหนึ่งปีกว่า อาสาสมัครหนุ่มได้ริเริ่มสร้างโรงงานกลางป่าและให้กำเนิดแบรนด์ YAVA ในปี 2012 โดยเริ่มต้นจากการผลิตเม็ดมะม่วงหิมพานต์พันธุ์ไฮบริดหรือการผสมสองสายพันธุ์เข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นการร่วมคิดค้นกับชาวสวน ปัจจุบันชาวบ้านและชาวสวนกว่า 400 คนได้เข้าร่วมเป็นพนักงานและเป็นส่วนสำคัญในการนำพาแบรนด์ยาว่าไปสู่ชาวโลก โรงงานแห่งนี้ได้เปลี่ยนผลผลิตให้เป็นผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ ควบคู่ไปกับการเพิ่มรายได้และพัฒนาสุขภาพที่ดีให้กับชุมชนในหมู่บ้าน Desa Ban และกว่าสิบปีผ่านไป ในปัจจุบันพื้นที่ป่าแถบนี้เป็นที่รู้จักอย่างดีของคนบาหลีและนักท่องเที่ยว